1/23/2554

หน้าจอโปรแกรม MicrosoftExcel

Function ในการคำนวณของ Excel

โปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซลมีฟังก์ชัน ที่สร้างไว้เพื่อใช้ทำงานคำนวณด้านต่าง ๆ มากมายหลายด้าน การทำงานด้วยฟังก์ชันเป็นการทำงานที่ประกอบด้วยข้อมูลทั้งประเภทข้อความ ประเภทตัวเลข รวมถึงชื่อเซลที่ใช้เก็บข้อมูล องค์ประกอบที่ใช้ในการทำงานในฟังก์ชัน เรียกว่า อาร์กิวเมนต์ ( argument ) ฟังก์ชันจะให้คำตอบได้ถูกต้อง และรวดเร็วกว่าการใช้สูตรแทนการทำงานด้วยตนเอง ตัวอย่างของการคำนวณที่ผู้ใช้เขียนสูตรเอง ว่า =C1+C2+C3+C4+C5 เพื่อทำการบวกค่าที่อยู่ในเซล C1, C2, C3, C4 และ C5 เข้าด้วยกัน ก็จะสามารถแทนได้ด้วยการใช้ฟังก์ชัน =SUM(C1:C5) เป็นต้น

รูปแบบของฟังก์ชัน

= ชื่อฟังก์ชัน ( อาร์กิวเมนต์ 1, อากิวเมนต์ 2, … )

ฟังก์ชันที่ใช้ในโปรแกรมเอ็กเซล จะประกอบด้วย

1. เครื่องหมาย =
2. ชื่อของฟังก์ชัน
3. วงเล็บ ภายในประกอบด้วยตัวแปรที่จำเป็นต้องระบุในการใช้ฟังก์ชันนั้น ๆ เรียกว่า อาร์กิวเมนต์

การเรียกใช้ฟังก์ชัน
การเรียกใช้ฟังก์ชันมี 2 วิธี
1. ใช้ฟังก์ชันด้วยการพิมพ์ มีขั้นตอน ดังนี้
1.1 คลิกเซลที่ต้องการให้เป็นที่เก็บผลลัพธ์
1.2 พิมพ์เครื่องหมาย =
1.3 พิมพ์ชื่อฟังก์ชันที่ต้องการ เช่น SUM , AVERAGE, COUNT, MAX, MIN
1.4 พิมพ์เครื่องหมายวงเล็บเปิด
1.5 พิมพ์อาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชัน
1.6 พิมพ์เครื่องหมายวงเล็บปิด
1.7 กดแป้น Enter

2. ใช้เมนู หรือฟังก์ชันวิเศษ ( Function Wizard ) มีขั้นตอน ดังนี้
2.1 คลิกเซลที่ต้องการให้เป็นที่เก็บผลลัพธ์
2.2 คลิกเมนูหลัก Insert คลิกเมนูย่อย Function หรือ คลิกที่รูป fx บนทูลบาร์
2.3 คลิกกลุ่มของฟังก์ชันที่ต้องการ เช่น กลุ่ม Most Recently Used ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำหนดให้เป็นค่าโดยปริยาย (default) อยู่แล้ว
2.4 คลิกฟังก์ชันที่ต้องการ
2.5 คลิกปุ่ม Next
2.6 พิมพ์อาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชันที่เหมาะสมลงในช่องว่างที่ปรากฏ
2.7 คลิกปุ่ม Finish


ฟังก์ชันที่นิยมใช้

ฟังก์ชัน SUM = หาผลรวมของข้อมูล
ฟังก์ชัน AVERAGE = หาค่าเฉลี่ยของข้อมูล
ฟังก์ชัน MAX = หาค่าสูงสุดของข้อมูล
ฟังก์ชัน MIN = หาค่าต่ำสุดของข้อมูล
ฟังก์ชัน COUNT = หาจำนวนข้อมูลในเซลที่ไม่ใช่เซลว่าง
ฟังก์ชัน IF = แสดงข้อมูลภายใต้เงื่อนไขกรณีที่เป็นจริง และเป็นเท็จ


ฟังก์ชั่น
ประโยชน์
AVERAGEใช้หาค่าเฉลี่ยของกลุ่มข้อมูลที่เป็นตัวเลข
COUNTใช้ในการนับจำนวนที่ระบุ
DATEช่วยกรอกข้อมูลที่เป็นวันที่และสามารถนำไปคำนวณระยะเวลา
IFใช้ทดสอบเงื่อนไข
LARGEหาค่าตัวเลขสูงสุดในกลุ่มของข้อมูล โดยระบุช่วงที่ต้องการ
MAXหาค่าที่สูงสุดในกลุ่มของตัวเลข
MINหาค่าที่ต่ำสุดในกลุ่มของตัวเลข
ROUNDปัดเศษจุดทศนิยมตามหลักคณิตศาสตร์
SUMหาค่าผลรวมของตัวเลข
VLOOKUPช่วยค้นหาและแสดงข้อมูลจากตารางที่กำหนด
DATEช่วยเก็บข้อมูลวันที่ และจะเปลี่ยนให้เป็นเลขจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปใช้คำนวณหาระยะเวลา
DATEVALUEเปลี่ยนข้อมูล เดือน วันที่ ปี ที่เขียนเป็นตัวอักษรให้เป็นเลขจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปใช้คำนวณหาระยะเวลา
DAYS 365คำนวณระยะเวลาเป็นจำนวนวน โดยถือตามหลักของปีทางธรุกิจคือ 1 ปี มี 365 วัน
NOWให้ผลเป็นวันที่และเวลาที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยรวมกันออกมาเป็นเลขจำนวนหนึ่ง
TIMEให้ผลเป็นตัวเลขจำนวนหนึ่งจากข้อมูลชั่วโมง นาที และวินาที ที่กำหนดให้
TIME VALUEให้ผลเป็นตัวเลขที่จำนวนหนึ่งจากข้อมูลชั่วโมง นาที และวินาที ซึ่งเขียนในเชิงตัวอักษร
TODAYให้วันที่เป็นตัวเลขจำนวนหนึ่ง ตามที่ได้มาจากเครื่องคอมพิวเตอร์
DAYแยกข้อมูลส่วนที่เป็นวันที่ออกมาจากข้อมูล วันที่, เดือน, ปี
HOURบอกเวลาเฉพาะส่วนที่เป็นชั่วโมง
MINUTEบอกเวลาเฉพาะส่วนที่เป็นนาที
MONTH: แยกข้อมูลส่วนที่เป็นวันที่ออกมาจากข้อมูล วันที่, เดือน, ปี ผลออกมาจะได้ตัวเลขที่นำไปคำนวณได้ด้วย
SECONDแยกข้อมูลส่วนที่เป็นวินาทีออกมา จากเวลาที่กำหนด
WEEKDAYให้ผลลัพธ์ว่าเป็นวันอะไร จากข้อมูลวันที่ เดือน ปี
YEARให้ผลลัพธ์ว่าตรงกับปี ค.ศ. อะไร จากข้อมูลวันที่ เดือน ปี หรือตัวเลขจำนวนหนึ่ง
ABSหาค่าสัมบูรณ์ของตัวเลข (Absolute Value) ตัวเลขที่ไม่มีการติดลบ
SCOSหาค่า Arc Cosine คือ ส่วนกลับของค่า Cosine ตามหลักของตรีโกณมิติ
ACOSHหาค่าส่วนกลับของ Hyperbolic Cosine
ASINหาค่า Arc Sine
ASINHหาค่าส่วนกลับของ Hyperbolic Sine
ATANหาค่า Arc Tangent
ATAN2หาค่าความลาดเอียง (Slope) ของเส้นตรงที่ลากมาจากจุดพิกัด (แบบ รูป กราฟ) มายังจุดกำเนิด (Origin) คือ จุดตัดเส้นแกน X,Y
ATANHหาค่าส่วนกลับของ Hyperbolic Tangent
BASEแปลงหาค่าตัวเลขฐานสิบให้เป็นฐานอื่นที่ต้องการ
CEILINGปัดค่าให้เป็นเลขจำนวนเต็ม ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับเลขที่กำหนดให้มากที่สุด โดยปัดค่าตัวเลขเป็นบวกขึ้น และปัดลงหากเป็นลบ
COMBINคำนวณหาจำนวนวิธีการจัดกลุ่ม (Combination) ตามหลักคณิตศาสตร์
COSหาค่า Cosine ตามหลักของตรีโกณมิติ
COSHหาค่า Hyperbolic Cosine
EVENปัดค่าให้เป็นเลขจำนวนเต็มรูปแบบเลขคู่ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับเลขที่กำหนดให้มากที่สุด โดยปัดขึ้นสำหรับค่าบวกและปัดลงสำหรับค่าลบ
EXPหาค่า Exponential
FACTหาค่า Factorial
FACTDOUBLEหาค่า Factorial แต่เป็นการลดค่าของตัวคูณลงทีละ 2
FLOORปัดค่าให้เป็นเลขจำนวนเต็มรูป ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับเลขที่กำหนดให้มากที่สุด
โดยปัดขึ้นสำหรับค่าลบและปัดลงสำหรับค่าบวก
GCDหาค่าตัวคูณร่วมน้อย (ค.ร.น.) ของกลุ่มเลขจำนวนหนึ่ง
INTปัดเศษทศนิยมทิ้งเหลือไว้แต่เลขหน้าจุดทศนิยมเท่านั้น
LCMหาค่าตัวคูณร่วมมาก (ค.ร.ม.) ของกลุ่มเลขจำนวนหนึ่ง
LNหาค่าของ Natural Logarithm จากตัวเลขที่กำหนดให้
LOGหาค่า Logarithm ของตัวเลขจากฐาน (Base) ที่กำหนดให้
LOG10หาค่า Logarithm ของตัวเลขจากฐาน 10
MDETERMหาค่าDeterminant ของ Matrix ซึ่งมีจำนวนแถวและจำนวนคอลัมน์เท่ากัน
MNVERSEหาค่า Inverse ของ Matrix ซึ่งมีจำนวนแถวและจำนวนคอลัมน์เท่ากัน
MMULTหาผลคูณของ Matrix สองชุด
MODหาค่า Modulo คือ เศษที่ได้จากการหารของตัวเลขสองจำนวน และจะให้เครื่องหมายเดียวกันของตัวหาร
MULTINOMIALหาอัตราส่วนระหว่าง ผลบวก Factorial กับผลคูณ Factorial ของจำนวนหนึ่งที่กำหนดให้
ODDปัดค่าให้เป็นเลขจำนวนเต็มแบบเลขคี่ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับเลขที่กำหนดให้มากที่สุด โดยปัดขึ้นสำหรับค่าบวกและปัดลงสำหรับค่าลบ
PIให้ค่าคงที่ของ P1 คือ 3.141592 (โดยประมาณ)
PRODUCTหาผลคูณของตัวเลขจำนวนหนึ่งที่กำหนดให้
QUOTIENTหาค่าที่ได้จากการหารของตัวเลขสองจำนวน โดยปัดเศษทิ้งทั้งหมด
RANDให้ค่าตัวเลขแบบสุ่ม ๆ ซึ่งจะมีค่าระหว่าง 0-0.9999
RANDBETWEENให้ค่าตัวเลขแบบสุ่ม ๆ โดยสามารถกำหนดช่องของตัวเลขที่ต้องการ
ROUNDปัดเศษทศนิยมให้มีจำนวนหลักเท่าที่ต้องการ โดยพิจารณาตามหลังคณิตศาสตร์
ถ้าเกิน 5 ปัดขึ้น ต่ำกว่า 5 ปัดทิ้ง
SERIESSUMหาค่าผลรวมของเลขอนุกรมชุดหนึ่ง
SIGNแทนความหมายของค่าตัวเลขที่กำหนดให้ด้วย 1 หรือ 0 ดังนี้*ถ้าตัวเลขที่กำหนดให้มีค่าเป็นบวก จะได้เลข 1*ถ้าตัวเลขที่กำหนดให้มีค่าเป็นศูนย์ จะได้เลข 0*ถ้าตัวเลขที่กำหนดให้มีค่าติดลบ จะได้เลข –1
SINหาค่า Sine ตามหลักของตรีโกณมิติ
SINHหาค่า Hyperbolic Sine
SQRTหาค่ารากที่สองของตัวเลขที่กำหนดให้
SUMหาค่าผลรวมของตัวเลขจำนวนหนึ่ง
SUMPRODUCTหาค่าผลรวมระหว่างผลคูณของตัวเลขหลายกลุ่ม
SUMSQหาค่าผลรวมของตัวเลขยกกำลัง
SUMX2MY2หาค่าผลรวมของตัวเลขยกกำลังสอง 2 จำนวนลบกัน
SUMX2PY2หาค่าผลรวมของตัวเลขยกกำลังสอง 2 จำนวนบวกกัน
SUMXMY2หาค่าผลรวมของผลต่างยกกำลังสอง 2 จำนวน
TANหาค่า Tangent ตามหลักตรีโกณมิติ
TANHหาค่า Hyperbolic Tangent
TRUNCปัดเศษทศนิยมให้มีจำนวนหลักเท่าที่ต้องการ โดยไม่มีการพิจารณาใด 
BAHTTEXTแปลงตัวเลขให้เป็นข้อความ

l
 Microsoft Excel2003

โปรแกรม  Microsoft Excel  เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม  Microsoft Office  ซึ่งนิยมใช้ในสำนักงานทั่วไปเกี่ยวกับข้อมูลในรูปคอลัมน์ หรือข้อมูลในตารางที่มีข้อมูลเชิง ข้อความ ตัวเลข วันที่/เวลา เป็นองค์ประกอบหลัก 
lนอกจากนี้โปรแกรม  Microsoft Excel  ยังนำรูปภาพกราฟิก  (Graphic) และแผนภูมิ  (Chart)  มาใช้ประกอบการทำงานบนโปรแกรมด้วย

1/18/2554

ใบงานที่ 5

ใบงานที่ 5 การปรับแก้ไขข้อมูลการจัดการ
1. วิธีการในการแก้ไขข้อมูลที่ผิดมีวิธีการในการแก้ไขมีกี่วิธี อะไรบ้าง
2. วิธีการในการยกเลิกการแก้ไขข้อมูลที่ได้ทำไปแล้วมีวิธีการในการยกเลิกการแก้ไขกี่วิธี อะไรบ้าง
3. แป้นคุมการเคลื่อนย้าย Cusor ใน Formula Bar มีปุ่มอะไรบ้าง และแต่ละปุ่มทำงานอย่างไร
4. การคัดลอกข้อมูลสามารถทำได้หลายวิธีมีอะไรบ้าง อธิบายให้เข้าใจ
5. Shift Cells Right ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
6. Shift Cells Down ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
7. Entire Row ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
8. Entire Column ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร

ใบงานที่ 4

ใบงานที่ 4 การสร้างสูตรและฟังก์ชั่นใการคำนวณ
1. เครื่องหมายที่ใช้ในการคำนวณมีอะไรบ้าง
2. ฟังก์ชั่นพื้นฐานของ Excel ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง
3. การเขียนฟังก์ชั่นจะประกอบด้วยส่วนต่างๆ 3 ส่วน ได้แก่อะไรบ้าง
4. ข้อควรระวังในการเขียนฟังก์ชั่นมีอะไรบ้าง
5. ประเภทของฟังก์ชั่นของ Excel นั้นสามารถแบ่งตามประเภทของการใช้งานได้กี่แบบอะไรบ้าง
6. Sum ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
7. AVERAGE ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
8. COUNT ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
9. IF ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
10. DATE ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร

ใบงานที่ 3

ใบงานที่ 3 การป้อนและการจัดรูปแบบข้อมูล
1. ประเภทของข้อมูล บน Worksheet มีกี่ประเภท อะไรบ้าง อธิบายมาพอเข้าใจ
2. ชนิดของข้อมูล Excel 2003 มีกี่ชนิด อะไรบ้าง อธิบายมาพอเข้าใจ
3. การกำหนดข้อมูลชนิดต่างๆ ลง Cell แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง อธิบายมาพอเข้าใจ
ใบงานที่ 4 การสร้างสูตรและฟังก์ชั่นใการคำนวณ
1. เครื่องหมายที่ใช้ในการคำนวณมีอะไรบ้าง
2. ฟังก์ชั่นพื้นฐานของ Excel ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง
3. การเขียนฟังก์ชั่นจะประกอบด้วยส่วนต่างๆ 3 ส่วน ได้แก่อะไรบ้าง
4. ข้อควรระวังในการเขียนฟังก์ชั่นมีอะไรบ้าง
5. ประเภทของฟังก์ชั่นของ Excel นั้นสามารถแบ่งตามประเภทของการใช้งานได้กี่แบบอะไรบ้าง
6. Sum ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
7. AVERAGE ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
8. COUNT ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
9. IF ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร
10. DATE ฟังก์ชั่น นี้มีความหมายว่าอะไร มีประโยชน์อย่างไร

ใบงานที่ 2

ใบงานที่ 2 การใช้โปรแกรมตารางงาน เรื่อง การป้อนและการจัดรูปแบบข้อมูล
1. ให้นักศึกษา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ห้อง 2/1 ประเภทของข้อมูลที่ใช้กันแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
จงอธิบายมาพอสังเขป
2. ชนิดของข้อมูลที่ใช้กันแบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง อธิบายมาพอสังเขป
3. คอลัมน์ คืออะไร
4. แถว คืออะไร
5. ฟังก์ชั่นของ Excel คืออะไร

ใบงานที่ 1

ใบงานที่ 1 การใช้โปรแกรมตารางงาน เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2003

ให้นักศึกษา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ห้อง 2/1 หา โปรแกรม Microsoft Excel 2003 คืออะไร และเราสามารถใช้ประโยชน์จากโปรแกรม Microsoft Excel 2003 ได้อย่างไรบ้าง อธิบายมาพอสังเขป